หุ้นรับแรงกดดัน Bond Yield พุ่ง ปิดตลาด -16.60 จุด

หุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวลดลง -16.60 จุด โบรกฯ ชี้เป็นไปตามตามตลาดภูมิภาค ทั้งเกาหลี ไต้หวัน และสิงคโปร์ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (Bond Yield) ปรับตัวขึ้นมา ล่าสุดขึ้นไปที่ 1.83% ประเมินกรอบการลงทุนพรุ่งนี้ที่แนวรับ 1,658 และ 1,650 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,670 และ 1,680 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 18 มกราคม 2565 ปรับตัวลดลงกว่า -16.60 จุด หรือ +0.99% โดยปิดตลาดที่ 1,660.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 113,953.45 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ ดัชนี SET INDEX ปรับตัวผันผวนอย่างต่อเนื่อง โดยค่อยๆ ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาดซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้ในภาคเช้า จนกระทั่งปืดตลาด ซึ่งระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,682.93 จุด ขณะที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,660.15 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 398 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 340 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,496 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 5,583.82 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 3.19 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -2,957.10 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,629.92 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 7,096.85 ล้านบาท ปิดที่ 144.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.TKC มูลค่าการซื้อขาย 4,952.84 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.GULF มูลค่าการซื้อขาย 4,739.91 ล้านบาท ปิดที่ 50.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
4.GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 4,492.43 ล้านบาท ปิดที่ 6.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท
5.BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,787.51 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 126.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 3.27%
2.ADVANC ปิดที่ 222.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.83%
3.BLA ปิดที่ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 4.05%
4.BBL ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.16%
5.RCL ปิดที่ 49.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.60%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 381.00 บาท ลดลง 7.00 บาท หรือ 1.80%
2.HANA ปิดที่ 76.75 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 4.36%
3.SCB ปิดที่ 123.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 2.76%
4.SINGER ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 4.43%
5.KCE ปิดที่ 79.75 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 2.74%

ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,257.73 จุด ลดลง -20.15 จุด หรือ -0.88% ดัชนี SET50 ปิดที่ 987.60 จุด ลดลง -9.07 จุด หรือ -0.91% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 668.38 จุด ลดลง -15.32 จุด หรือ -2.24%

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรงตามตลาดภูมิภาค ทั้งเกาหลี ไต้หวัน และสิงคโปร์ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (Bond Yield) ปรับตัวขึ้นมาล่าสุดขึ้นไปที่ 1.83% ทำให้เกิดความกังวลนโยบายการเงินตึงตัวของสหรัฐฯ อาจจะเร็วและแรงกว่าคาด ทำให้ตลาดเกิดความผันผวน โดยที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมามากแล้ว จึงมีแรงขายทำกำไรออกมากระจายไปทุกกลุ่ม

อย่างไรก็ดี สำหรับนโยบายการเงินในประเทศคงยังต้องผ่อนคลายต่อไป ดังนั้นมองว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยคงจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยเร็ว

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีมีโอกาสเหวี่ยงกลับ พร้อมให้แนวรับที่ 1,658 และ 1,650 จุด แนวต้าน 1,670 และ 1,680 จุด