KEX ปิดงบปี 64 อวดรายได้ทะลุ 1.8 พันล้าน

”เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)” อวดรายได้ปี 64 แตะ 18,818 ล้านบาท ใกล้เคียงกับรายได้ปี 2563 แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2564 จะมีผลกระทบจากปัจจัยลบและความไม่แน่นอนหลายประการ เดินหน้าประกาศร่วมลงทุนกับพันธมิตรรายใหญ่เพื่อขยาย ecosystem ให้ครอบคลุมต่อความต้องการของลูกค้า และเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายตลาด ปั้นรายได้เพิ่มเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่ง

นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดเผยว่า “จากกลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุกเพื่อครองความเป็นผู้นำตลาดขนส่งพัสดุด่วน ทำให้ยอดจัดส่งพัสดุเติบโตเป็นที่น่าประทับใจ เติบโตกว่า 30% จากปีก่อนหน้า ดึงส่วนแบ่งตลาด และมีผู้ใช้บริการรายเดือนเพิ่มขึ้น 32% ส่งผลให้รายได้ประจำปี 2564 เท่ากับ 18,818 ล้านบาท อีกทั้งด้วยการให้บริการในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ KEX ขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ทุกกลุ่มตลาดทั้งตลาด e-commerce, social และ live-stream commerce โดยเราลงทุนในกำไรในระยะสั้นเพื่อการเป็นผู้นำในระยะยาว แม้ในช่วงปีที่ผ่านมา จะมีผลกระทบจากปัจจัยภายนอกมากมาย ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลาดแรงงานที่ขาดแคลน และตลาด e-Commerce และ social commerce ในช่วงไตรมาสที่ 4 อ่อนแอลง ทั้งนี้ KEX รายงานกำไรสุทธิส่วนของผู้เป็นเจ้าของบริษัทประจำปี 2564 เท่ากับ 47 ล้านบาทซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ เนื่องจาก KEX ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเพิ่มยอดจัดส่งพัสดุและขยายฐานลูกค้าเพื่อครองความเป็นผู้นำตลาดและยึดมั่นในคุณภาพการให้บริการอันยอดเยี่ยม

บริษัทฯ เตรียมความพร้อมด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยเพื่อรองรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิดทั่วประเทศโดยเฉพาะเชื้อสายพันธุ์ใหม่โอมิครอนที่มีการแพร่กระจายที่รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดการหยุดชะงักของกระบวนการจัดส่งดังเช่นที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการหลายรายในตลาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเสียหายทางการเงินและชื่อเสียงในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นเราต้องมีมาตรการป้องกันด้านแรงงานขั้นสูงสุด โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มจากการจัดให้มีทรัพยากรสำรองและเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจัดส่งพัสดุตามยอดจัดส่งพัสดุที่เพิ่มขึ้น เรามั่นใจว่าการมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นจะทำให้เราเป็นผู้นำและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะปรับตัวลดลงเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย”

ตลอดปีที่ผ่านมา KEX มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการบริหารจัดการผ่านการอัปเกรดแพลตฟอร์ม เราพัฒนาแพลตฟอร์มและการจัดการเส้นทางขนส่งโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการดำเนินงานและการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในปี 2565 KEX ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานภายในและการยกระดับแพลตฟอร์มการจัดส่งพัสดุให้เป็นไปอย่างเข้มข้นตลอดทั้งปี ร่วมกับกลยุทธ์การมุ่งหาพันธมิตรที่มีจุดแข็งในด้านต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ อันได้แก่ ความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจชุมชนผ่านโมเดลตัวแทน หรือ reseller model เปิดตัว Orange Express เพื่อขยายเครือข่ายและจุดให้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ KEX ได้ประกาศความร่วมมือกับ Grab Thailand เปิดบริการ “รับพัสดุถึงหน้าบ้านแบบทันที” และ “รับพัสดุถึงหน้าบ้านแบบรายชั่วโมง” ถือเป็นความร่วมมือแบบ win-win ที่ใช้จุดแข็งและทรัพยากรที่มีอยู่ของทั้ง 2 บริษัทสร้างประสบการณ์ใหม่ ความสะดวกสบาย และความรวดเร็วให้แก่ลูกค้าในราคาที่จับต้องได้ โดยปราศจากต้นทุนส่วนเพิ่ม ซึ่งทำให้ “ปัจจุบันเรามีจุดให้บริการกว่า 29,000 แห่งทั่วประเทศและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ด้วยกลยุทธ์การกระจายการลงทุนสู่ธุรกิจอื่นๆ KEX ยังตอกย้ำจุดยืนการขยายธุรกิจและควบรวมกิจการทั้งในแนวตั้งและแนวนอน เพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน สร้างกำไรและการเติบโตทั้งจากธุรกิจหลักและธุรกิจอื่นๆ โดยในปีที่ผ่านมา KEX ร่วมทุนกับเครือเบทาโกร ภายใต้แบรนด์ KERRY COOL ดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิอันล้ำสมัย ด้วยมาตรฐานที่ดี และการบริการที่น่าเชื่อถือทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยสูงสุด จะขยายสู่ตลาดลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศในปีนี้เป็นต้นไป และล่าสุดเราได้ประกาศจับมือกับ Central Retail จัดตั้งบริษัทลงทุนในธุรกิจ less-than-truckload (LTL) delivery หรือการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่มาตรฐานระดับโลกเจ้าแรกในไทย ภายใต้แบรนด์ KERRY XL พร้อมให้บริการลูกค้าทั่วประเทศ เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งสำหรับทั้ง 2 ธุรกิจ จากการตอบสนองต่อผู้บริโภคที่ยังไม่ได้รับการบริการที่ดีด้วยราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีข้อได้เปรียบจากความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพสูงจากโมเดล Hub-and-spoke ที่เป็นเอกลักษณ์ของ KEX โดยบริษัทฯ คาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะสร้างรายได้ให้ KEX ในระดับ 20% ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป

“จากความมุ่งมั่นอันแรงกล้าต่อกลยุทธ์ความเป็นผู้นำตลาด การคัดสรรพันธมิตรทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม และแรงสนับสนุนของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะครองความเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดจัดส่งพัสดุด่วนของประเทศ และสร้างกำไรในระยะยาวเพื่อผู้มีส่วนได้เสียทุกส่วนอย่างยั่งยืน” นายอเล็กซ์ กล่าวปิดท้าย

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket